นายกรัฐมนตรี รวมพลังต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เดินหน้าเปิด 3 ช่องทางร้องเรียนเรื่องทุจริต

นายกรัฐมนตรี รวมพลังต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เดินหน้าเปิด 3 ช่องทางร้องเรียนเรื่องทุจริต สร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินหน้าประกาศแนวทางการดำเนินการระยะต่อไปของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เปิด 3 ช่องทางการส่งเรื่องร้องเรียนทุจริตคอร์รัปชั่น ได้แก่ ตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริตทั่วประเทศ สายด่วน 1206 และสื่อออนไลน์ www.stopcorruption.go.th ย้ำทุกข้อร้องเรียนจะถูกตรวจสอบและแก้ไข  พร้อมดึงพลังจากทุกภาคส่วนร่วมกันเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพราะประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงย่อมมีระดับความสามารถในการผลิตที่สูง  ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจยั่งยืน

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ แสควร์ บี กรุงเทพฯ– นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นว่า “นับตั้งแต่วันแรกที่รัฐบาลได้ประกาศต่อสู้กับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง ตาม โครงการ ประเทศไทยก้าวไกล ไร้ทุจริตคอร์รัปชั่น ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น รัฐบาลดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกและมีความคืบหน้าไปในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการ “1 กรม 1 ป้องกันโกง” หรือ Clean Initiative ส่งเสริมให้ส่วนราชการริเริ่ม จัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการของแต่ละหน่วยงาน โดยเลือกกระบวนงานบริการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดคอร์รัปชั่น เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและความเสียหายกับภาคธุรกิจมากที่สุด ขณะนี้ส่วนราชการและจังหวัดทั้งหมด 144 กรม 76 จังหวัด ได้เริ่มต้นดำเนินการ 1 กระบวนงานเรียบร้อยแล้ว นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการขยายผลการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างทั่วทั้งระบบต่อไปในอนาคต”

การดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น โดยการสร้างความตระหนักรู้ อีกทั้งทัศนคติเชิงบวกในการ สร้างภูมิคุ้มกัน และความเข้มแข็งให้กับสังคมไทย ควบคู่ไปกับการสร้างค่านิยม บนพื้นฐานความถูกต้อง โดยอาศัยกลไกทางสังคม เป็นการลงโทษผู้กระทำผิด สร้างความโปร่งใสในการบริหารราชการ ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการตรวจสอบ โดยการรวมพลังภาคประชาชนในการร่วมมือเป็นพลังในการพัฒนาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย รัฐบาลจึงได้เปิด 3 ช่องทางการส่งเรื่องร้อนเรียนทุจริตคอร์รัปชั่นขึ้น 

1. ตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริต จำนวน 181 ตู้ โดยติดตั้งไว้ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยตามสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล ศาลากลางจังหวัด สถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ธนาคารกรุงไทย และศูนย์บริการ AIS

2. www.stopcorruption.go.thละเปิดสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Twitter หรือ Line ตามแอพลิเคชั่นต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือ เป็น ช่องทางติดตามข้อมูลข่าวสาร ผลการดำเนินงานการตรวจสอบในเรื่องร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชั่น เข้ากับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ สร้างพลังเยาวชนให้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในพลังสังคมที่สำคัญ

3. สายด่วน 1206 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) รับเรื่องร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชั่นตลอด 24 ชั่วโมง

โดยทั้ง 3 ช่องทางที่รัฐบาล ดำเนินการขึ้นมานี้สามารถเป็นกลไกสำคัญสร้างประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแบบบูรณาการในประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน

หลังจากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และผู้แทนภาคเอกชน กว่า 500 ท่าน เข้าร่วมแปรอักษรบนลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นคำว่า Stop Corruption หรือ หยุดคอร์รัปชั่น เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือของทุกภาคส่วน ก่อนขึ้นนำเขียนคำปฏิญาณลงบนกำแพงสีขาว หรือ White Wall เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงในการดำเนินการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง

คอร์รัปชั่น

ความร่วมมือของภาคเอกชนในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี โดยการร่วมแสดงจุดยืน และเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ได้รับการสนับสนุนจาก 3 องค์กรชั้นนำ ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ในการร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการ จัดตั้งตู้รับเรื่องร้องเรียนทุจริต และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ในการรวบรวมเรื่องร้องเรียนจากตู้รับเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศ

นางวิลาสินี พุทธิการันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานบริหารลูกค้าและบริการ   บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงบทบาทภาคธุรกิจต่อโครงการนี้ว่า “การหยุดคอร์รัปชั่นนี้ ถือเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ไม่ใช่เพียงแต่ภาครัฐบาลเท่านั้น เอกชน ก็สามารถมีส่วนร่วมได้ ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมความรู้ สร้างความเข้าใจ และปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องต่อการดำเนินชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องคอร์รัปชั่น และประชาชน ก็สามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยการแจ้งเบาะแส หรือ ต่อต้านพฤติกรรมที่แสดงถึงการทุจริตหรือคอร์รัปชั่นได้”

คอร์รัปชั่น

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเข้าร่วมสนับสนุนโครงการในครั้งนี้ว่า “บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันและจรรโลงสังคมไทยให้ปราศจากทุจริตคอร์รัปชั่น รวมทั้งเป็นการปลูกฝังและส่งเสริมค่านิยมที่ถูกต้องในระดับมวลชน อันนำไปสู่การดำเนินงานและบริหารประเทศได้ดีขึ้น และเป็นที่เชื่อถือและยอมรับจากนานาประเทศ”

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงประโยชน์ของโครงการนี้ว่า “โครงการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาลครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการดำเนินงานที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือสังคมได้มีโอกาสในการร่วมแสดงความคิดเห็นหรือมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”

คอร์รัปชั่น
Message us