กรมวิชาการเกษตรและกรมศุลกากรลงนามจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนราชพฤกษ์ ๒๕๕๔

กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ กรมศุลกากร จัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ ระหว่างวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ถึงวันที ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันศุกร์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๔ ณ ห้องประชุมภาสกรวงศ์ อาคาร ๑ ชั้น ๒ กรมศุลกากร ได้จัดพิธีลงนามการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ ระหว่างนายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร โดยกรมศุลกากร ได้อนุมัติให้กรมวิชาการเกษตรจัดตั้ง “คลังสินค้าทัณฑ์บนราชพฤกษ์ ๒๕๕๔” ขึ้น ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ ๔๗๐ ไร่ โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร เช่น

              – ได้รับงดเว้นการเก็บอากรขาเข้าและอากรขาออกของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อจัดแสดงในคลังฯ หากได้จำหน่ายระหว่างการจัดงานแสดงเพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร

              – ของในประเทศที่ไม่มีค่าอากรสามารถนำเข้าเก็บในคลังฯ เพื่อจัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการและหากได้จำหน่ายเพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม

งานมหกรรมพืชสวนโลก

นายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร ได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เป็นผู้บริหารจัดการและเตรียมการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ ซึ่งภายในงานจะประกอบด้วย สวนเฉลิมพระเกียรติ์ฯ สวนนานาชาติ นิทรรศการภายในอาคาร นิทรรศการกลางแจ้ง และผู้เข้าร่วมแสดงมีทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดง ได้แก่ พันธุ์พืชทุกประเภท และชนิด ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ส่วนของพืช เมล็ดพันธุ์ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ

“ การจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ เพื่อได้รับสิทธิงดเว้นการชำระอากรขาเข้าและอากรขาออกแก่สิ่งแสดงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศแล้วส่งกลับออกไปเมื่อจบงานแสดง และการลงนามสัญญาประกันและทัณฑ์บน ระหว่างกรมศุลกากร และกรมวิชาการเกษตรในวันนี้ ก็เพื่อให้การจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ เป็นไปตามระเบียบของกรมศุลกากร ซึ่งจะทำให้การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ๒๕๕๔ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เป็นการจัดนิทรรศการในระดับนานาชาติสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย”

Message us