เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นตัวแทนขององค์กรด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ร่วมประกาศเจตนารมณ์กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผู้นำหน่วยงานภาครัฐ และนายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย ผู้แทนจากภาคเอกชน ได้ทำพิธีลงนามประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ในงาน Thailand Anti-Corruption EXPO 2010 หรืองานนิทรรศการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของทั้งสามภาคส่วน นั่นคือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ว่าจะร่วมมือกันต่อต้านการทุจริตพิชิตคอร์รัปชันในประเทศไทยอย่างจริงจัง โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. คาดหวังว่า การลงนามและการจัดงานครั้งนี้ จะช่วยให้ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index หรือ CPI ) ของประเทศไทยสูงขึ้นถึง 5 คะแนน ซึ่งในปี พ.ศ. 2553 ไทยได้คะแนนความโปร่งใสของชาติเพียง 3.5 คะแนนเท่านั้น
นายอภินันท์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า “ปีนี้ประเทศไทยได้คะแนนCPI 3.5 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งค่าคะแนน 0 คือคอร์รัปชันมากที่สุด 10 คือคอร์รัปชันน้อยที่สุด และไทยอยู่อันดับที่ 78 จากการจัดอันดับทั้งหมด 178 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2552 ไทยได้คะแนน 3.4 และอยู่อันดับที่ 84 ของโลก ก็ถือว่าปีนี้ดีขึ้นนิดหน่อย สำหรับการลงนามในประกาศเจตนารมณ์ ครั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. คาดหวังว่า รัฐจะจริงจังกับการแก้ปัญหาการคอร์รัปชันในประเทศมากขึ้น เพราะการแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชันที่ได้ผล จะต้องเกิดจากความร่วมมือของ 3 ภาคส่วนด้วยกัน นั่นคือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งในวันนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับคำสัญญาจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนแล้ว ส่วน คณะกรรมการ ป.ป.ช. เองก็ขอเป็นตัวแทนของภาคประชาสังคมที่สัญญาว่าจะเฝ้าดู ป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นเมืองคนดีได้เร็วยิ่งขึ้น”
ในส่วนของงาน Thailand Anti-Corruption EXPO 2010 คณะกรรมการ ป.ป.ช. เชื่อมั่นว่า จะช่วยกระตุ้นพลังประชาชน ให้หันมาสนใจและเป็นแนวร่วมในการต้านทุจริตมากยิ่งขึ้น ปัญหาคอร์รัปชันไม่ใช่ปัญหาไกลตัว แต่สอดแทรกอยู่กับชีวิตประจำวันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการคอร์รัปชันถนน นมโรงเรียน ปลากระป๋อง อิฐ หิน ดินทราย ฯลฯ ดังนั้นทุกคนสามารถเป็นหู เป็นตา และช่วยป้องกันการคอร์รัปชันได้ หากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง คะแนนความโปรงใสของประเทศไทย น่าจะขึ้นไปถึง 5 คะแนนได้ในไม่ช้า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนภาครัฐ กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในการประกาศเจตนารมณ์ในครั้งนี้ เพราะผมยึดมั่นอยู่เสมอว่า การเมืองที่ไร้คอร์รัปชัน คือ การเมืองที่ถูกต้อง เพราะความถูกต้อง หมายถึง ความจริงและความจริงก็คือสิ่งที่ยั่งยืนและพิสูจน์ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจในตัวเอง แม้คนอื่นอาจไม่รู้ แต่อย่างน้อยตัวเราเองย่อมรู้ดีว่า เราทุจริตหรือไม่ การได้มาซึ่งชื่อเสียง เงินทอง แต่ต้องแลกกับการทุจริตประเทศชาติ สร้างความล่มจมเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเกิดของตัวเอง ผมมองว่ามันไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ”
นอกจากนั้น นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงนิทรรศการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย ว่า “ผมเชื่อมั่นว่า นิทรรศการที่มีประโยชน์เช่นนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้คนไทยเริ่มเล็งเห็นแล้วว่า ปัญหาการคอร์รัปชั่น ไม่ใช่ปัญหาที่ไกลตัว ไม่ใช่ปัญหาที่ภาครัฐเท่านั้นจะเป็นผู้จัดการ แต่เป็นปัญหาใกล้ตัวของทุกคน แม้แต่การทุจริตเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่สมควรที่จะกระทำ เพราะจะเป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ผิดๆ ให้กับเยาวชน ซึ่งการป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตนั้น ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ และในนิทรรศการนี้ ใครที่อยากรู้ว่า ผมมีทรัพย์สินเท่าไหร่ สส.ในรัฐบาลของผมท่านใดมีทรัพย์สินมากที่สุด ท่านใดมีน้อยที่สุด ก็จะได้ดูกันครับ เพราะรัฐบาลพร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลพวกนี้อยู่แล้ว เพื่อยืนยันว่า รัฐบาลไร้คอร์รัปชัน”
สำหรับนิทรรศการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย หรือ Thailand Anti-Corruption EXPO 2010นั้นจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 13 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา เวลา 09.00-19.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน C กรุงเทพฯ เข้าชมฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นนิทรรศการแห่งคุณธรรมหรือนิทรรศการสีขาว เพื่อต่อต้านการทุจริตครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า เมืองไทยพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงและต่อต้านการทุจริตหรือการคอร์รัปชันทุกประเภท การจัดนิทรรศการอยู่ภายใต้แนวคิด “เมืองคนดี” ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักด้วยกันคือ ภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน จุดเด่นคือนำเสนอผ่านสื่อมัลติมีเดียที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน มีทั้งหมด 10 โซนด้วยกัน อาทิเช่น
ป.ป.ช. กับยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริต (NACC & Anti-Corruption Strategy) ที่ทุกคนจะได้รู้จักกับ ป.ป.ช. และผลงานการปราบปรามการทุจริตคดีเด่น 5 คดี ที่ป.ป.ช.เคยตีแผ่จนกลายเป็นคดีทุจริตคอร์รัปชันระดับชาติที่ทุกคนควรรู้ พร้อมทั้งยังจะได้เรียนรู้ว่า Powerful Hand หรือพลังจากมือคุณนั้น ซึ่งเป็นพลังแห่งความดีจะเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างไร ผ่านเทคโนโลยีนำเสนอแบบ Shadow Interactive
ภายในงาน ยังมีคำตอบที่หลายคนอยากรู้ เช่น ท่านนายกรัฐมนตรีมีทรัพย์สินเท่าไหร่ หรือ ส.ส. ในรัฐบาลท่านใดมีทรัพย์สินมากน้อยขนาดไหน คำตอบอยู่ใน โซนเมืองคนดีภาครัฐ (City of Good Governance) หรือใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือหน่วยเอกชนก็จะต้องไม่พลาดข้อมูลว่า การทำธุรกิจที่โปร่งใสนั้นควรยึดหลักอย่างไร ภายใต้คำขวัญว่า “ธุรกิจสะอาด โปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน” ถือเป็นแนวทางการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ในโซนเมืองคนดีภาคธุรกิจเอกชน (City of Good Corporate Governance)
อีกหนึ่งโซนที่คนไทยทุกคนไม่ควรพลาดเลยก็คือ “ห้องเปิดใจ” ในโซนเมืองคนดีภาคประชาสังคม (City of Good Civil Society) ซึ่งเป็นห้องลับที่ทุกคนจะสามารถเข้ามาเผยความลับในทุกๆ เรื่องได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น My Secret สิ่งดีๆ ที่เราจะทำเพื่อสังคมในการต่อต้านการทุจริต หรือจะเป็น Their Secret ความลับของเรื่องที่ควรระวังหรือจะต้องรีบจับตามอง โดยทุกความลับเหล่านี้ จะเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้ประเทศไทยขาวสะอาดยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี โซนเมืองคนดีภาคสื่อมวลชน (City of Good Mass Media) พบการนำเสนอข่าวจากนักข่าวตัวจริงที่มีชื่อเสียงและมีผลงานที่โดดเด่น ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการร่วมเปิดเผยความจริง เป็นเสียงสะท้อนที่ร่วมต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน และร่วมเป็น Be the One ในโซนเชื่อมั่นประเทศไทย (International Cooperation) ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมต้านทุจริต ด้วยระบบ Handprint Interactive
และสำหรับเด็กๆ และเยาวชน ไม่ควรพลาด โซนเมืองเด็กคนดี (City of Good Kids) ในโครงการ “โตไปไม่โกง” ที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่น่าสนใจในการต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชันมากมาย อีกทั้งเด็กๆ ยังได้มีโอกาสแสดงพลังและแนวคิดว่า เด็กตัวน้อยๆ จะช่วยชาติบ้านเมืองให้ไร้ทุจริตได้อย่างไร แล้วก็ยังมี โซนฝึกจิตพิชิตคอร์รัปชัน เป็นทางเลือกใหม่ในการป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ทุกคนควรเข้ามาทดสอบ ตลาดนัดสีขาว พบกับการออกร้านสินค้าราคายุติธรรม ของธุรกิจขนาดย่อม แล้วสินค้า OTOP ขึ้นชื่อ และโซนลานคนเมือง ที่มีคอนเสิร์ตและการแสดงมากมายจากเหล่าศิลปินชื่อดัง อาทิ อ๊อฟ AF 2 , ปนัดดา เรืองวุฒิ ,เอ๊ะ อิศริยา และการแสดง Copy Show จากศิลปินดันดารา เป็นต้น รวมทั้งยังมีการร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลมากมาย
นอกจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังเปิดตัวสัญลักษณ์นำโชค หรือ Mascot ชื่อ “เทวดาสัตย์ซื่อ แห่งเมืองคนดี” ซึ่งมีที่มาจากนิทานสอนใจเรื่อง เทวดากับคนตัดไม้ โดยเทวดาในท้องเรื่องเป็นผู้ทำหน้าที่ส่งเสริมให้คนทำความดีและซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้น หากเห็น เทวดา ที่ไหน มั่นใจที่นั่นมีเกราะป้องกันการทุจริตและคอร์รัปชันแน่นอน
ทั้งหมดนี้นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า “งาน Thailand Anti-Corruption EXPO 2010 จะเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่นประเทศไทยในสายตาทั่วโลก เป็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านการพัฒนาส่งเสริมความโปร่งใส และการต่อต้านการทุจริต และประชาชนทั่วไป ก็จะได้รู้ว่า เขาสามารถช่วยประเทศชาติให้หลุดพ้นจากการคอร์รัปชันได้อย่างไร ถ้าพบเห็นการคอร์รัปชัน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่หน่วยงานใดบ้าง อย่างน้อยถ้าไม่รู้จะทำอย่างไรก็ให้แจ้งมาที่ สำนักงาน ป.ป.ช. เบอร์โทร หรือ 0 2528 4800 ป.ป.ช.อยากให้ทุกคนคิดว่า การแก้ปัญหาคอร์รัปชันคือภารกิจของคนทั้งชาติ อย่าปล่อยให้คนชั่วมีโอกาสโกงชาติ อย่าปล่อยให้ปัญหาคอร์รัปชันกัดกินประเทศชาติให้ย่อยยับ ถ้าพวกเราทุกคนสู้ด้วยกัน ประเทศไทยของเราจะโปร่งใส สะอาด ปราศจากคอร์รัปชันอย่างแน่นอน”