พืชสวนโลกฯ เนรมิตต้นไม้ 2 ล้านต้น

พืชสวนโลกฯ เนรมิตต้นไม้ 2 ล้านต้น  ชูกล้วยไม้ บัวไทย และพืชสมุนไพร พร้อมสวนนานาชาติกว่า 30 ประเทศ ตื่นตากับ 3 ไฮไลท์ใหม่ เพิ่มจินตนาการเหนือจริง กระเช้าลอยฟ้าราชพฤกษ์ – สวนแสงแห่งจินตนาการ – สวนเยาวชนรักษ์โลก

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 หรือ The International Horticultural Exposition:Royal Flora Ratchaphruek 2011 ที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายปีนี้ จัดยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องใน 3 วโรกาสมหามงคลของคนไทย นั่นคือ ในปี 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา จึงได้จัดนิทรรศการ “ตามรอยพ่อ เกษตรคือทางออกเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน” ด้านสถานที่ได้เตรียมการคืบหน้าไปมากแล้ว โดยอีกสามเดือนพร้อมเนรมิตต้นไม้เต็มสวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านต้น ชูพืชสมุนไพรไทย บัวไทยไปไกลทั่วโลก รวมไปถึงกล้วยไม้แทบทุกสายพันธุ์  พร้อมสวนนานาชาติกว่า 30 ประเทศ ด้านประธาน AIPH เผยมั่นใจ จัดยิ่งใหญ่ไม่แพ้ครั้งแรก เพราะไทยถือเป็นประเทศผู้นำด้านการเกษตร มากด้วยพืชทรงคุณค่า เช่นสมุนไพรไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ส่วน 3 ไฮไลท์ใหม่  เน้นตื่นตาตื่นใจและเพิ่มจินตนาการ พร้อมปลูกฝังเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ถึง 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

งานมหกรรมพืชสวนโลก

นายจิรากร  โกศัยเสวี  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า “ในส่วนของเรื่องสถานที่ ได้เตรียมงานไปมากแล้ว  ซึ่งหลังวันที่ 16 สิงหาคม สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จะปิดอุทยานหลวงราชพฤกษ์อย่างเป็นทางการและส่งมอบพื้นที่ให้ดำเนินการจัดเตรียมพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อนการจัดงาน พร้อมเนรมิตต้นไม้และดอกไม้กว่า 8,000 สายพันธุ์ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 2 ล้านต้น ส่วนในเรื่องการดำเนินการอื่น ๆ เช่น เนื้อหาจัดแสดง นิทรรศการต่างๆ การประกวด การประชุมทางวิชาการ ตลอดจนสวนนานาชาติกว่า 30 ประเทศและไฮไลท์ใหม่ของงานในปีนี้นั้น ดำเนินการไปแล้วกว่า 80 %  เพราะฉะนั้นแม้จะเหลือเวลาแค่ 3 เดือนกว่าๆ ก็มั่นใจว่า ทุกอย่างจะพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติวันละ 3-4 หมื่นคนแน่นอน”

ส่วนของการจัดแสดงสวนนานาชาติ มีประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 30 ประเทศ ได้รับการตอบรับเพิ่มเติมจาก 7 ประเทศ ได้แก่ (1) ปากีสถาน (2) เกาหลีใต้ (3) แคนาดา (4) ไนจีเรีย (5) เยเมน (6) ไต้หวัน และ(7) อาร์เมเนีย นอกเหนือจาก 23 ประเทศเดิมที่เคยร่วมจัดแสดงและตอบรับอีกครั้ง ได้แก่ (1) บังคลาเทศ (2) เบลเยี่ยม (3) ภูฏาน (4) กัมพูชา (5) จีน (6) อินเดีย (7) อินโดนีเซีย (8) อิหร่าน (9) ญี่ปุ่น (10) เคนยา (11) ลาว (12) มาเลเซีย (13) มอริเตเนีย (14) โมร็อกโก (15) เนปาล (16) เนเธอร์แลนด์ (17) กาตาร์ (18) แอฟริกาใต้ (19) สเปน  (20) ซูดาน  (21) ตุรกี และ(22) เวียดนาม รวมกับอีก 1 องค์กร ได้แก่ (23) เกียวโต / โอซากา / เฮียวโกะ สำหรับสวนองค์กร ได้รับการตอบรับแล้วทั้งสิ้น 19 หน่วยงาน

สำหรับรายละเอียดของนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติของทั้งสามพระองค์ สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือที่ใต้หอคำหลวง จะนำเสนอพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่แสดงถึงพระวิริยะอุตสาหะของพระองค์ที่ทรงงานหนักมาโดยตลอด ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการในทั่วทุกภาคของประเทศไทย และอีกส่วนหนึ่งคือที่อาคาร Expo Center 1 นำเสนอนิทรรศการ “ตามรอยพ่อ เกษตรคือทางออกเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน”  นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เผยแพร่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ฟาร์มตัวอย่างและโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ  นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านเกษตรเคลื่อนที่และสายใยรักแห่งครอบครัว พร้อมทั้งมีวงดนตรีแจ๊สบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ ในวันหยุดราชการและวันเสาร์อาทิตย์ด้วย”

งานมหกรรมพืชสวนโลก

นอกจากนี้ยังมีการจัดประกวดพืชสวน มากถึง 642 ประเภท ครอบคลุมทุกประเภททั้ง กล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ จัดดอกไม้ ผัก เห็ด ผลไม้ ชาและกาแฟ อีกทั้งยังมีกิจกรรมในสวนสมุนไพรกว่า 5 ไร่ รวบรวมพืชสมุนไพรมากที่สุดกว่า 1,000 ชนิด และเพิ่มสีสันด้วยการจัดอุโมงค์กล้วยไม้หรรษา (Orchid Adventure Tunnel) ที่เนรมิตกล้วยไม้แทบจะทุกสายพันธุ์ในประเทศไทยไว้ในงานนี้อย่างตระการตา รวมไปถึงโลกแมลง เตรียมพบกับ ด้วงไตรโลไบท์ ด้วงผู้สืบทอดเผ่าพันธุ์จากบรรพบุรุษผู้เป็นเจ้าแห่งทะเล สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เพิ่งค้นพบ และแมลงหายาก สายพันธุ์แปลกอีกมากมาย ทั้งที่มีชีวิตและสูญพันธุ์ไปแล้ว

ตลอดจนการประชุมทางวิชาการมากมาย ในระดับนานาชาติ จะมีขึ้น 13 การประชุม อาทิ การประชุมเรื่อง บทบาทของการเกษตร และทรัพยากรธรรมชาติในการลดสภาวะโลกร้อน   การประชุมนานาชาติไม้ผลเมืองร้อนและกึ่งร้อน  การประชุมยางนานาชาติ  การประชุมการจัดทำมาตรฐานผัก ผลไม้ การประชุมไหมโลก การประชุมนานาชาติเรื่องกล้วยไม้ และไม้ประดับ ส่วนการประชุมวิชาการด้านพืชสวนระดับชาติ จำนวนทั้งหมด 7 ครั้งด้วยกัน อาทิ การประชุมเรื่องบัว  หญ้าแฝก  กาแฟ เห็ด ส้ม เป็นต้น

“ในครั้งนี้มีการสร้างอาคารใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งอาคาร เพื่อใช้เป็นอาคารจัดนิทรรศการหมุนเวียน โดยใช้ชื่อว่า อาคาร Expo Center 2   นำเสนอเรื่องความก้าวหน้าทางการเกษตร หรือนวัตกรรมการเกษตรไทยก้าวไกลสู่สากล โดยจะเป็นนิทรรศการด้านพืชสวนและท้องที่ทางการเกษตรระดับชาติและนานาชาติ  จะมีด้วยกัน 8,000 พันธุ์พืชใหม่  มหัศจรรย์พันธุ์พืช 3G 3R ที่เน้นด้านการลดสภาวะแวดล้อมทางการเกษตร  และรณรงค์ปลุกจิตสำนึกการร่วมกันลดภาวะโลกร้อนการประหยัดพลังงาน  นิทรรศการไม้ประดับ  นิทรรศการไม้ผล ผัก เห็ด พืชอุตสาหกรรม  รวมไปถึงนิทรรศการไม้เมืองร้อนด้วย” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ดร. ดู๊ค ฟาเบอร์ (Dr. Doeke C. Faber)  ประธานสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ หรือ International Association of Horticultural Producers  ( AIPH ) ยังได้ให้ความมั่นใจว่า “งานมหกรรมพืชสวนโลกฯในครั้งนี้ จะทำได้อย่างดีและน่าสนใจ เนื่องจากเป็นการจัดงานในพื้นที่เดิม ซึ่งมีความพร้อมอยู่แล้ว เมื่อมีการปรับปรุงและเพิ่มเติมในรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น  ก็น่าจะทำให้งานมีความสมบูรณ์ น่าสนใจและมีสีสันมากขึ้นอย่างแน่นอน

แนวคิดของการจัดงานในครั้งนี้นั้น เน้นเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตามหลัก 3G 3R ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้แตกต่างจากการจัดงานในครั้งแรก รวมทั้งยังต้องการสื่อสารว่าการเกษตร สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและพัฒนาสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร ตลอดจนมีการนำเสนอโครงการพระราชดำริต่างๆ มากมายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและประชาชนทั่วไป

จุดที่น่าสนใจและโดดเด่นในงานนี้อีกจุดหนึ่งที่ประธาน AIPH ไม่อยากให้ทุกคนพลาดก็คือ การจัดแสดงเรื่องโลกของแมลง เพราะเป็นส่วนที่แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนของเกษตรกรและระบบนิเวศ ซึ่งจะทำให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติมากยิ่งขึ้น รวมทั้งในส่วนของกล้วยไม้และบัว ก็จะมีให้ชมอย่างมากมาย ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำสำหรับพืชสองชนิดนี้ นอกเหนือจากประเทศไต้หวันและเนเธอร์แลนด์ และในงานนี้นอกจากทุกคนจะได้เรียนรู้และสัมผัสกับความงามของต้นไม้ ดอกไม้และพืชนานาชนิดแล้ว  ยังจะได้ใช้งานนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้อีกด้วย เพราะมีกิจกรรมการประชุม การประกวดต่างๆ มากมายนั่นเอง”

ดร.ฟาเบอร์ กล่าวว่า “ในฐานะที่ผมเองเป็นเสมือนเป็นตัวแทนของดอกไม้และพืช ก็อยากให้มีการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน และรับผิดชอบต่อสังคม โดยขอทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรและผู้ส่งออก เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคม ระบบนิเวศ และสังคมโลก รวมถึง อยากให้ภาคเกษตรเป็นตัวอย่างในการพัฒนาอย่างยั่งยืน อยากให้หลายๆประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับประเทศไทย เพื่อร่วมเป็นตัวอย่างที่ดี โดยเฉพาะประเทศผู้ผลิตสินค้าทางเกษตร อยากให้เข้ามามีส่วนร่วมและนำแนวคิดนี้ไปปฎิบัติต่อไป”

นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารจัดการ งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 กล่าวว่า “อีกหนึ่งความพิเศษของงานครั้งนี้ คือ 3 ไฮไลท์ใหม่ ซึ่งจะสร้างสีสันและความประทับใจให้แก่ผู้เข้าชม ได้แก่

สวนแสงแห่งจินตนาการ Imagination Light Garden การเนรมิตดวงไฟนับล้านดวงกับผีเสื้อเรืองแสงเต้นระบำ พร้อมเสียงดนตรีบรรเลงอย่างไพเราะ เรียกว่าครบโชว์ ทั้งแสง สี เสียง อีกทั้งยังมีใบไม้เรืองแสง interactive ที่เรืองแสงตามการเคลื่อนไหว ประหนึ่งเหมือนเดินอยู่ในดินแดนเหนือจริง ซึ่งในปีนี้การเข้าชมงานขยายเวลาปิดถึง 21.00  น. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดให้บริการถึง 22.00 น. สวนแสงแห่งจินตนาการ จึงน่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศของสวนดอกไม้ยามค่ำคืน และที่พลาดชมไม่ได้กับ ทุ่งดอกไม้ Solar cell ที่เก็บแสงในช่วงเวลากลางวัน  ไปเป็นพลังงานแสงสว่างในเวลากลางคืน”

บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของ สวนแสงแห่งจินตนาการ ได้เล็งเห็นถึงแนวคิดการจัดแสดง สวนแสงแห่งจินตนาการ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการนำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่และเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะได้ชมสวนแบบนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะมีความน่าสนใจ ความสวยงาม ทันสมัย เท่านั้น ยังมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานหลักของงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ และวิสัยทัศน์ของบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มุ่งมั่นให้บริการทางด้านเทคโนโลยีที่ก้าวไกล เพื่อนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ มั่นใจว่า สวนแสงแห่งจินตนาการ จะเป็นอีกหนึ่งสวนที่จะสร้างทั้งความรู้ ความสุข ความประทับใจ และสะท้อนการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมานำเสนอได้อย่างดี เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เรียนรู้ และนำไปพัฒนาในชีวิตประจำวันได้ต่อไป

กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า Giant Flora Wheel  ที่สูงกว่า 40 เมตร เต็มตากับจุดชมทิวทัศน์ภายในบริเวณงานพืชสวนโลกในมุมมองใหม่ที่สวยที่สุด  ถือเป็นการชมสวนในมุมสูง ทุกท่านจะได้เห็นพรมดอกไม้ ต้นไม้เต็มพื้นที่เบื้องล่างทั้ง 470 ไร่ ทั้งในบรรยากาศกลางวันที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ และสวนในยามค่ำคืนที่ประดับตกแต่งด้วยแสงไฟนานาชนิด ตามด้วยอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สุดไฮเทค ร่วมเรียนรู้และสนุกสนานกับบ้านต้นไม้ที่รวบรวมมัลติมิเดียและความเป็นธรรมชาติไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรกในเมืองไทย

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และเครื่องดื่มตราช้าง  ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของกระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า     ได้มีโอกาสร่วมสนับสนุนงานมหกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี  เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคล  และผู้เข้าชมงานยังได้สัมผัสถึงความสวยงามของพรรณไม้นานาชนิดภายในงาน  ทั้งได้ประสบการณ์แปลกใหม่ตื่นเต้นเร้าใจแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน    นับว่าเป็นมุมพักผ่อนอีกมุมหนึ่งของงานที่ให้พักชมสวนในบรรยากาศสุดโรแมนติกทั้งกลางวันและกลางคืน

สวนเยาวชนรักษ์โลก Kids’ Eco Park พื้นที่สวนเรียนรู้ด้วยสื่อผสมผสาน Interactive และมัลติมีเดีย ปลูกฝังจิตสำนึกการลดโลกร้อนและการอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทุ่มเทคโนโลยีการนำเสนอสุดทันสมัยผ่านการ์ตูนแอนนิเมชั่นบอกเล่าเรื่องราวผ่านน้องคูน (สัญลักษณ์นำโชค) และผองเพื่อน ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และความสัมพันธ์ของธรรมชาติกับสิ่งแวดล้อมในรูปแบบที่สนุกสนานและเข้าใจง่าย”

ตลอดจน การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 นี้ ยังได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากองค์กรระดับชาติหลายแห่ง อาทิ กลุ่มบริษัทเซ็นทรัล   ให้การสนับสนุนพื้นที่ส่งเสริมการขาย และการประชาสัมพันธ์ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 22 สาขาทั่วประเทศ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด   บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)   บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 

นอกจากนั้น ภายในงาน ยังมีมุมถ่ายภาพมากมาย ตระการตาไปด้วยสวนดอกไม้หลากสี เพิ่มทางเข้า-ออกงาน เป็น 2 จุด ส่วนห้องน้ำ ได้ปรับปรุงใหม่และสร้างเพิ่มเติมบริเวณลานจอดรถ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากกว่าครั้งก่อน ที่สำคัญครั้งนี้ จำกัดคนเข้าชมงานไม่เกิน 30,000 – 40,000 คนต่อวัน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด รวมทั้งในวันธรรมดา (จันทร์ – ศุกร์) ยังมีกิจกรรมการแสดงพิเศษให้ชมตลอด 99 วัน และยังมีกิจกรรมตามเทศกาลพิเศษ เช่น วันลอยกระทง วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ และอื่นๆ ซึ่งปีนี้เตรียมจัดอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

Message us