พ่อเมืองเชียงใหม่ยืนยันพร้อมเป็นเจ้าภาพ “งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554” มั่นใจยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลอง 3 วโรกาสสำคัญ ชูแนวคิดหลัก พืชสวนช่วยลดโลกร้อน
จังหวัดเชียงใหม่ และ และกรมวิชาการเกษตร ร่วมกันเปิดเผยถึงความคืบหน้าของ งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ว่าจังหวัดเชียงใหม่พร้อมเป็นเจ้าภาพเชิญชวนชาวเชียงใหม่ต้อนรับแขกเมืองด้วยน้ำใจไมตรี ส่วนกิจกรรมภายในงานจะยิ่งใหญ่ สวยงาม ตระการตาภายในพื้นที่ 470 ไร่ ของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ขณะนี้มีหลายประเทศตอบรับร่วมงานแล้ว ส่วนองค์กรต่าง ๆ ในประเทศยินดีร่วมงานกว่า 30 องค์กร
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเกียรติให้เป็นพื้นที่จัดงาน และร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 อีกครั้งหนึ่ง ระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 – 15 กุมภาพันธ์ 2555 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมความพร้อมในทุกๆ เรื่อง เริ่มตั้งแต่การปรับภูมิทัศน์ทั่วเมืองเชียงใหม่ให้เป็นสีเขียว สอดคล้องกับแนวคิดของการจัดงาน คือ การสร้างทัศนคติสีเขียวให้คนเชียงใหม่ รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยหยุดยั้งปัญหาโลกร้อน และเตรียมชักชวนชาวเชียงใหม่ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มที่แจ่มใส เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาคของไทยและทั่วทุกมุมโลก รวมถึงเปิดมุมมองใหม่ให้คนเชียงใหม่ต่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีคุณค่า
สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 3 วโรกาสสำคัญของคนไทย นั่นคือ ในปี 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2555 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร จะทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ภายในงานจะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการเกษตร พระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ของทั้ง 3 พระองค์
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่อไปว่า การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯครั้งนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพในด้านเกษตรกรรมและเทคโนโลยีด้านพืชสวนของไทยที่มีความก้าวหน้าไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ อันจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ที่อยู่ในวงการวิชาชีพพืชสวนมีความรู้ประสบการณ์ เพื่อนำไปพัฒนาอาชีพของตนเองก้าวหน้ายิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มช่องทางการส่งออกผลิตภัณฑ์พืชสวนไทยสู่ตลาดโลก
“การจัดงานในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และการท่องเที่ยวของไทย ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงได้นับหมื่นล้านบาท จากธุรกิจด้านการนำเข้าส่งออกผลิตผลทางการเกษตร ธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจบริการด้านต่างๆ” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว
ด้านนายจิรากร โกศัยเสวี อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า แนวคิดการจัดงานครั้งนี้ คือ Greenitude: Reducing Global Warming to Save Planet Earth and to Improve the Quality of Life ทัศนคติสีเขียว ร่วมสร้างสรรค์แนวคิดรักษ์โลก ตระหนักถึงการช่วยกันลดสภาวะโลกร้อน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมนุษยชาติ โดยยึดหลัก 3 Gs และ 3 Rs
โดย 3 Gs คือ สร้างจิตสำนึกให้มนุษยชาติรุ่นต่อรุ่น (Generation) ให้รักและอนุรักษ์ต้นไม้ และพืชพรรณต่างๆบนโลก (Garden) เป็นการปลูกฝังทัศนคติสีเขียว (Greenitude) เพื่อร่วมกันปกป้องโลกใบนี้ให้ยั่งยืนตลอดกาล 3 Rs ได้แก่ ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยลดการใช้ (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญเร่งด่วนในการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับตราสัญลักษณ์ของงานจะใช้ “ดอกราชพฤกษ์” และมีสัญลักษณ์นำโชค หรือ Mascots 5 ตัว ประกอบด้วย น้องคูน ลมบิน ดินฉ่ำ น้ำใส ไออุ่น
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้รับการตอบรับจาก 30 ประเทศทั่วโลกว่าจะเข้าร่วมจัดแสดงสวนนานาชาติในงานครั้งนี้ด้วย อาทิ แคนาดา ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ตุรกี เคนย่า เนปาล ภูฏาน อินโดนีเซีย บังกลาเทศ ซูดาน เป็นต้น ส่วนในประเทศ มีองค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ ประมาณ 39 แห่งที่ตอบรับเข้าร่วมจัดงานในครั้งนี้ เช่น โตโยต้า ป.ต.ท. ไทยเบฟเวอเรจ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กสท โทรคมนาคม เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมหลักๆ ในงานแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วนกัน คือ นิทรรศการต่างๆ การประชุมทางวิชาการด้านพืชสวนระดับชาติและนานาชาติ และการจัดประกวดพืชสวนชนิดต่าง ๆ โดยในส่วนของนิทรรศการนั้น เช่น นิทรรศการใต้ร่มพระบารมี ๘๔ พรรษา มหาราชา เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพในด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติของทั้ง 3 พระองค์ นิทรรศการสวนนานาชาติ ทั้งในอาคารและนอกอาคาร นิทรรศการด้านพืชสวนและเทคโนโลยีการเกษตรระดับชาติและนานาชาติ ที่ใช้แนวคิด 3Gs และ 3Rs
สำหรับการประชุมวิชาการนานาชาติและระดับชาติด้านพืชสวนนั้น จะเป็นการเผยแพร่ แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ให้เกิดขึ้น โดยเป็นการประชุมวิชาการด้านพืชสวนในระดับนานาชาติทั้งสิ้น 11 การประชุม เช่น การประชุมเรื่อง บทบาทของการเกษตร และทรัพยากรธรรมชาติในการลดสภาวะโลกร้อน การประชุมนานาชาติไม้ผลเมืองร้อนและกึ่งร้อน การประชุมยางนานาชาติ การประชุมไหมโลก การประชุมนานาชาติเรื่องกล้วยไม้ และไม้ประดับ เป็นต้น ส่วนการจัดประกวดพืชสวนนั้น จะประกอบด้วย การประกวดกล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ และการจัดสวน ประกวดไม้ผล และประกวดพืชผัก รวม 51 ประเภท
จุดเด่นของงานในครั้งนี้ที่น่าสนใจ คือ กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า Giant Flora Wheel สูงกว่า 40 เมตร เมื่อขึ้นไปแล้วสามารถชมทิวทัศน์ภายในบริเวณงานได้ทั้งหมด สวนแสงแห่งจินตนาการ Imagination Light Gardens โดยเนรมิตดวงไฟนับล้านดวงกับผีเสื้อเรืองแสงเต้นรำ พร้อมเสียงดนตรี และสวนเยาวชนรักษ์โลก Kids’ Eco Park เป็นนิทรรศการและกิจกรรมที่ให้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน ปลูกฝังการลดโลกร้อนและรักธรรมชาติให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่