บริการที่ปรึกษาด้านงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร | Market-Comms Co., Ltd.

เกษตรกรทั่วประเทศ ลุกฮือ! ร้องเรียนกรมวิชาการเกษตร ไร้ทิศทาง พึ่งพาไม่ได้

สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย เครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง และกลุ่มเกษตรกรปลูกผัก ผลไม้ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด และอ้อย กว่า 100 ราย ยื่นหนังสือถึง ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กรณีดำเนินการล่าช้า ร่างประกาศฯ จำกัดการใช้สารเคมี และอ้างมีสารชีวภัณฑ์ใช้ทดแทน แต่ความจริงไม่มี 

นางสาวอัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง เปิดเผยว่า “ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอแนะให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการพัฒนา แนวทางการใช้สารชีวภัณฑ์ขึ้นมาทดแทนการใช้สารเคมี พาราควอต ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือจากผู้ตรวจการแผ่นดิน กรมวิชาการเกษตร ผู้รับผิดชอบได้เสนอสารชีวภัณฑ์มาให้กลุ่มเกษตรกรใช้แล้วนั้น จากการตรวจสอบโดยกรมวิชาการเกษตรเอง กลับพบว่า สารชีวภัณฑ์ดังกล่าว มิได้เป็นสารธรรมชาติแต่อย่างใด ทว่าเป็นสารที่มีส่วนผสมของสารเคมีเช่นเดิม เป็นการแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ปัจจุบัน ไม่สามารถหาสารธรรมชาติหรือวิธีการอื่นใดมากำจัดวัชพืชในภาคอุตสาหกรรมการเกษตรได้

สารชีวภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ได้แก่ สารจากธรรมชาติ ตัวห้ำ ตัวเบียน และเชื้อจุลินทรีย์ที่ ใช้ในการควบคุมศัตรูพืช ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และไม่มีฤทธิ์ตกค้างในสิ่งแวดล้อมเหมือนสารเคมี

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวเสริมว่า กรมวิชาการเกษตร ควรเป็นที่พึ่งของภาคเกษตรกร แต่ที่ผ่านมา นอกจากไม่มีผลงานที่สนับสนุนเกษตรกรแล้ว ยังซ้ำเติมเกษตรกรให้ได้รับความลำบากจากมาตรการต่างๆ ในช่วงตลอด 2   ปีที่ผ่านมาอีกด้วย ทำให้พวกเราเกิดความเสียหาย และต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 1,500 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น ร่างประกาศฯ การจำกัดการใช้สารเคมีที่เสนอให้เกษตรกรปฏิบัตินั้น ก็ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง และไม่ยอมเผยแพร่ข้อเท็จจริง ถึงผลการตรวจสอบวิเคราะห์ดินและน้ำจากหนองบัวลำภู ว่า ไม่พบการตกค้างของสารพาราควอต ตามที่ เอ็นจีโอ เคยกล่าวอ้าง ส่งผลกระทบให้ “เกษตรกร เป็นจำเลยสังคม”

ในฐานะ ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ เป็นอธิบดีกรมวิชาการเกษตร การจำกัดการใช้สารเคมี ควรมีหลักการและแนวทางปฏิบัติที่เป็นในทิศทางเดียวกัน ไม่ควรเอื้อประโยชน์ต่อสารเคมีใดสารเคมีหนึ่ง ไม่เช่นนั้นเกษตรกรอาจคิดได้ว่า การที่กรมฯ “แบนพาราควอตนั้น เพื่อผลประโยชน์ของใคร?” และขอให้คำนึงถึงความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติจริง ตระหนักถึงความสำคัญต่อการปฏิบัติและใช้สารเคมีของเกษตรกรเป็นหลัก เพื่อยกระดับเกษตรปลอดภัยไทยให้เป็นระบบอย่างยั่งยืน นายสุกรรณ์ กล่าวสรุป

สอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ 
เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย 
โทร. 089-745-4203

Message us