คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เตรียมจัดนิทรรศการแห่งคุณธรรมหรือนิทรรศการสีชาว เพื่อต่อต้านการทุจริตครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกของประเทศ เพื่อประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า เมืองไทยพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงและต่อต้านการทุจริตหรือการคอร์รัปชันทุกประเภท โดยมีชื่อว่า นิทรรศการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย หรือ Thailand Anti-Corruption EXPO 2010 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 13 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา เวลา 09.00-19.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน C กรุงเทพฯ
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เผยถึงที่มาของนิทรรศการสีขาวนี้ว่า “เนื่องจากในปี 2553 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกาศให้เป็น “ปีแห่งคุณธรรมความโปร่งใส” อีกทั้งประเทศไทย ยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านทุจริต ครั้งที่ 14 หรือ งาน 14th IACC ด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จัดการประชุมนี้ขึ้นในประเทศไทย ดังนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงอยากนำเสนอนิทรรศการที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามและผลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาประเทศตลอดจนประชาชนคนไทยได้ร่วมรับรู้ว่าประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปสู่เมืองคนดีที่ปลอดการทุจริต ซึ่งจะเป็นจริงได้หรือไม่นั้นต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกคน”
สำหรับรูปแบบหรือแนวคิดของการจัด นิทรรศการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย หรือ Thailand Anti-Corruption EXPO 2010 นั้นอยู่ภายใต้แนวคิด “เมืองคนดี” ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักด้วยกันคือ ภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งหากทั้งสามองค์ประกอบนี้มีแต่คนดี และรู้จักคำว่า “พอ” คำว่า “คอร์รัปชัน” หรือ “ทุจริต” ก็จะถูกลบออกจากพจนานุกรมไทยได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังเปิดตัวสัญลักษณ์นำโชค หรือ Mascot ขึ้น ชื่อ “เทวดาสัตย์ซื่อ แห่งเมืองคนดี” ซึ่งมีที่มาจากนิทานสอนใจเรื่อง เทวดากับคนตัดไม้ โดยเทวดาในท้องเรื่องเป็นผู้ทำหน้าที่ส่งเสริมให้คนทำความดีและซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้น หากเห็น เทวดา ที่ไหน มั่นใจที่นั่นมีเกราะป้องกันการทุจริตและคอร์รัปชันแน่นอน
ความน่าสนใจของการจัดงานครั้งนี้ จุดเด่นอยู่ที่วิธีการนำเสนอผ่านสื่อมัลติมีเดียที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน มีทั้งหมด 10 โซนด้วยกัน อาทิ ป.ป.ช. กับยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริต (NACC & Anti-Corruption Strategy) ที่ทุกคนจะได้รู้จักกับ ป.ป.ช. และผลงานการปราบปรามการทุจริตคดีเด่น 10 คดี ที่ป.ป.ช.เคยตีแผ่จน
กลายเป็นคดีทุจริตคอร์รัปชันระดับชาติที่ทุกคนควรรู้ พร้อมทั้งยังจะได้เรียนรู้ว่า Powerful Hand หรือพลังจากมือคุณนั้น ซึ่งเป็นพลังแห่งความดีจะเปลี่ยนแปลงสังคมได้อย่างไร ผ่านเทคโนโลยีนำเสนอแบบShadow Interactive
ภายในงาน ยังมีคำตอบที่หลายคนอยากรู้ เช่น ท่านนายกรัฐมนตรีมีทรัพย์สินเท่าไหร่ หรือ ส.ส. ในรัฐบาลท่านใดมีทรัพย์สินมากน้อยขนาดไหน คำตอบอยู่ใน เมืองคนดีภาครัฐ (City of Good Governance) หรือใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือหน่วยเอกชนก็จะต้องไม่พลาดข้อมูลว่า การทำธุรกิจที่โปร่งใสนั้นควรยึดหลักอย่างไร ภายใต้คำขวัญว่า “ธุรกิจสะอาด โปร่งใส ไร้คอร์รัปชัน” ถือเป็นแนวทางการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ในโซนเมืองคนดีภาคธุรกิจเอกชน (City of Good Corporate Governance)
อีกหนึ่งโซนที่คนไทยทุกคนไม่ควรพลาดเลยก็คือ “ห้องเปิดใจ” ในโซนเมืองคนดีภาคประชาสังคม (City of Good Civil Society) ซึ่งเป็นห้องลับที่ทุกคนจะสามารถเข้ามาเผยความลับในทุกๆ เรื่องได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น My Secret สิ่งดีๆ ที่เราจะทำเพื่อสังคมในการต่อต้านทุจริต หรือจะเป็น Their Secret ความลับของเรื่องที่ควรระวังหรือจะต้องรีบจับตามอง โดยทุกความลับเหล่านี้ จะเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้ประเทศไทยขาวสะอาดยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี โซนเมืองคนดีภาคสื่อมวลชน (City of Good Mass Media) พบการนำเสนอข่าวจากนักข่าวตัวจริงที่มีชื่อเสียงและมีผลงานที่โดดเด่น ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการร่วมเปิดเผยความจริง เป็นเสียงสะท้อนที่ร่วมต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน รวมทั้งยังมีกิจกรรมคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย และร่วมเป็น Be the One ในโซนเชื่อมั่นประเทศไทย (International Cooperation) ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมต้านทุจริต ด้วยระบบ Handprint Interactive หรือแม้กระทั่งเด็กๆ ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเด็กคนดีได้ที่โซนเมืองเด็กคนดี (City of Good Kids) ที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชน มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่น่าสนใจในการต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชันมากมาย
ทั้งหมดนี้นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า “นิทรรศการเมืองคนดี หรือ Thailand Anti-Corruption EXPO 2010 จะเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่นประเทศไทยในสายตาทั่วโลก เป็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านการพัฒนาส่งเสริมความโปร่งใส และการต่อต้านการทุจริต ซึ่งจะช่วยทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน และประชาชนทั่วไปเอง ก็จะได้รับประโยชน์เช่นกัน จะได้รู้ว่า ตัวเองจะช่วยประเทศชาติให้หลุดพ้นจากการคอร์รัปชันได้อย่างไร และถ้าพบเห็นการคอร์รัปชัน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่หน่วยงานใดบ้าง”
หากสนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมต้านการทุจริตหรือคอร์รัปชัน สามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ตั้งแต่เวลา เวลา 09.00-19.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน C โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น