Botox® คืออะไร
- Botox® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเป็น Botulinum Toxin เพียงชนิดเดียวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาเพื่อใช้ในด้านCosmetic ในการลดริ้วรอย
- Botox® เป็นชื่อทางการค้าของโปรตีนบริสุทธิ์ นำมาใช้ในเรื่องความสวยงาม รวมทั้งรักษาโรคได้หลากหลายมานานกว่า 30 ปี
- Brand “Botox®” ได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FAD) มานานกว่า 16 ปี
- Botox® ใช้อย่างแพร่หลายใน 70 ประเทศทั่วโลก
- Botox® ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของเทคนิคความงามโดยไม่ต้องผ่าตัด ในปี 2547 ในสหรัฐอเมริกา และจัดเป็นสารที่นำใช้แก้ไขปัญหารูปหน้าโดยไม่พึ่งศัลยกรรมมากที่สุดในปัจจุบัน
- ในปี 2546 มีการใช้ Botox® มากกว่า 2.8 ล้านครั้งเฉพาะใน USA และมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 40 % ในแต่ละปี
- การใช้ Botox® ในผู้ชายได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเกือบ 4 เท่าในเวลาเพียง 3 ปี จาก 7.9 % ในปี 2544 เป็น 26.29 % ในปี 2547
- ควรเจาะจงชื่อ Botox® และตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่ามีเครื่องหมายการค้า Botox® เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความปลอดภัย และผลการรักษาที่ดีที่สุด
ทำไม Botox® จึงได้รับความนิยมสูงสุด
- Botox® เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเสริมความงามที่มีความปลอดภัยสูงสุด มีผลการวิจัยยืนยันการใช้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี
- ใช้เวลาในการทำน้อยมาก ประมาณ 10-20 นาที แล้วสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
- เห็นผลชัดเจน และรวดเร็วภายในเวลา 3-7 วัน
- ไม่มี Down time
- ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องหลบแดด
- ไม่มีผลถาวร หากไม่พึงพอใจสามารถปรับเปลลี่ยนและแก้ไขได้ หรือรอจนกระทั่งกลับมาเหมือนเดิมได้
Botox® ออกฤทธิ์ อย่างไร
- Botox® ออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งสารเคมีที่กล้ามเนื้อ หรือต่อมเหงื่อ แล้วแต่บริเวณที่ฉีด เช่นที่กล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยจึงจางหายไป หรือถ้าเป็นกล้ามเนื้อบริเวณกรามหรือน่อง จะลดการใช้งานลง ขนาดจึงเล็กลงตามมา หรือต่อมลดการหลั่งเหงื่อถ้าฉีดบริเวณต่อมเหงื่อ
- โดยทั่วไปหลังฉีด Botox® แล้วจะเห็นผลภายใน 2-3 วัน โดยจะเห็นผลสูงสุดภายใน 7 วัน
- ยกเว้น การฉีดเพื่อปรับเปลี่ยนรูปหน้าเหลี่ยมให้เรียวมน และการลดและปรับเปลี่ยนรูปน่อง ซึ่งจะเห็นผลภายในเวลาประมาณ 1 เดือน
- ผลของ Botox® จะอยู่นาน 3-6 เดือน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับบุคคล และพบว่าการฉีดอย่างต่อเนื่องทุก 4 เดือนจะทำให้ได้ผลชัดเจนมากขึ้น และทำให้ผลการรักษาอยู่ได้นานขึ้น
Botox® มีผลข้างเคียงอย่างไร
- ไม่เคยมีรายงานการเกิดอาการแพ้อย่างเฉียบพลัน
- อาการที่อาจพบได้ เช่น การปวดศรีษะ หรือตึงบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายใน 3-4 วัน
- หนังตาตก คิ้วตกเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ยากระจายไปในบริเวณที่ไม่ต้องการซึ่งถ้าผู้ได้รับการฉีดปฏิบัติตัวถูกต้องตามคำแนะนำ มักจะไม่เกิดอาการเหล่านี้เลย อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้เป็นเพียงแค่ชั่วคราว และหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
Botox® เจ็บหรือไม่
- การฉีด Botox® ทำโดยการใช้เข็มเบอร์เล็กที่สุด
- ก่อนฉีดแพทย์จะทำการประคบเย็น ซึ่งได้ผลเทียบเท่ากับการใช้ยาชา หรือถ้ากลัวเจ็บมาก สามารถทายาชาก่อนฉีดก็สามารถช่วยได้
- จะรู้สึกตึง ๆ เมื่อยาเดินเข้าสู่ชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ
หลังฉีด Botox® จะกลับมามีริ้วรอยมากกว่าเดิมหรือไม่
ต้องฉีดต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ หรือไม่
- ผลของ Botox® จะอยู่นาน 3-6 เดือน หลังจากนั้นริ้วรอยจะค่อย ๆ กลับมาทีละน้อยจนกระทั่งเท่ากับก่อนฉีด แต่ไม่มากกว่าเดิม
- เท่ากับ Botox® ช่วยหยุดเวลาของวัยในช่วงที่ฉีดเอาไว้ เช่น ขณะนี้มีอายุ 40 ปี ฉีด Botox® ต่อเนื่องเป็นเวลลา 2 ปี เมื่อหยุดฉีดอายุ 42 ปี แต่ผิวหน้าเทียบเท่ากับอายุ 40 ปี
- การฉีดต่อหรือไม่ขึ้นกับการตัดสินใจของคนไข้ แต่มีคำแนะนำว่าการฉีดต่อเนื่องจะทำให้ผลการรักษาดีขึ้นเรื่อย ๆ และผลอยู่ได้นานขึ้นซึ่งเป็นผลดีกับตัวคนไข้เอง ในกรณีที่คนไข้ต้องการสภาพผิวที่ดูดีตลอดไป
Botox® แตกต่างจากการเสริมความงามวิธีอื่นอย่างไร และใช้ร่วมกับเทคนิคอื่น ๆ ได้หรือไม่
- Botox® เป็นเทคนิคเสริมความงามและปรับเปลี่ยนรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน
- โดยทั่วไป การรักษาริ้วรอยด้วย Botox® จะเหมาะสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า จากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า
- โดยเฉพาะกับใบหน้าส่วนบน เช่นรอยตีนกา คิ้วขมวด รอยย่นที่หน้าผาก การปรับเปลี่ยนรูปคิ้ว การเปิดกว้างของดวงตา บริเวณเหล่านี้ถือได้ว่า Botox® เป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด และแทบไม่มีผลข้างเคียงเลย
- แต่สำหรับใบหน้าบางส่วนอาจใช้ Botox® สามารถใช้ร่วมกับเทคนิคเสริมความงามอื่น เช่นเลเซอร์และ filler อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยเสริมให้ได้ผลชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย
- เนื่องจาก Botox® ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว และเคลื่อนไหวน้อยลง collagen ที่ถูกเสริมสร้างขึ้นใหม่โดยเทคนิคอื่น ๆ จะคงอยู่ในบริเวณชั้นผิวหนังได้ดีและไม่เคลื่อนไหว ผลการปรับสภาพผิวจึงชัดเจนยิ่งขึ้น
- นอกจากนี้ สภาพผิวโดยรวม ดูดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อใช้ Botox® ร่วมกับเลเซอร์และ filler
Botox® ไม่ควรใช้ในใครบ้าง
- Botox® ไม่ควรใช้ในหญิงให้นมบุตร หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
คำแนะนำสำหรับคนไข้
- ผู้ที่ทานยากลุ่ม NSAIDS, Aspirin, Vitamin E, แปะก๊วย, น้ำมันปลา แนะนำให้หยุดยาก่อนฉีดประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากยาเหล่านี้ทำให้เลือดหยุดยากขึ้นกรณีมีเลือดออก
- แต่ถ้าต้องการฉีด Botox® ทันทีก็สามารถทำได้ โดยแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อปฏิบัติการประคบเย็นและประคบด้วยก๊อซหลังฉีด
คำแนะนำหลังฉีด Botox®
- ก่อนฉีด อาจทายาชาทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง หรือใช้นำแข็งประคบจุดที่จะฉีดเพื่อให้เกิดอาการชาและลดโอกาสเกิดรอยช้ำ
- แนะนำให้แสดงสีหน้าตรงตำแหน่งที่ฉีดบ่อย ๆ ในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังฉีดเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่
- ไม่ควรนอนราบภายใน 2 ชั่วโมงหลังฉีด
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์หลังฉีด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
- ถ้ามีอาการปวดศรีษะ หลังฉีด แนะนำให้ทานพาราเซตามอล โดยอาจจะมีอาการ 2-3 วัน ก็จะหายไปเอง